** หลังจากเมื่อวันก่อนได้เขียนบทความทบทวนเรื่องเก่า ๆ แต่สำคัญไปอย่างเรื่อง อิคิไก จึงทำให้เช้านี้นึกถึงบทความนี้จากหนังสือ Principles ที่เคยโพสไว้บน Facebook ของผมเองที่ facebook.com/GengSittipong เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 และเกิดยอดแชร์จำนวนมาก วันนี้จึงขอนำเนื้อหามาลง blog อีกครั้งนะครับ **
หนังสือ Principles เขียนโดย Ray Dalio คนที่ไม่ได้เขียนหนังสือเพื่อหวังจะร่ำรวย (เพราะรวยมาก ๆ อยู่แล้ว) และไม่ได้หวังจะดัง (เพราะก็เป็นที่รู้จักในวงกว้างอยู่แล้ว) แต่เขียนเพื่อต้องการถ่ายทอดแนวคิดและวิธีการใช้ชีวิตและทำงาน
หนังสือ Principles ยังเป็นหนังสือที่คนจำนวนไม่น้อยบอกว่า “ดีมาก!!” ผมเองก็มีทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ดีขนาดไหนต้องลองดูครับ แต่ที่แน่ ๆ คือ หนังสือเล่มนี้จะเปลี่ยนความคิดการใช้ชีวิตและการทำงานของคุณไปโดยสิ้นเชิง
ทีนี้พออ่านไปได้เรื่อย ๆ ก็มาพบกับบทหนึ่งที่เชื่อว่ามีประโยชน์มาก ๆ
และน่าจะเป็นหนึ่งใน “หัวใจสำคัญของหนังสือ Principle เล่มนี้เลยก็คือ “วิธีการ 5 ขั้นตอนเพื่อให้ได้ทุกสิ่งที่คุณต้องการในชีวิต”มันดีขนาดนั้นเลยหรอ? เพื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาลุยกันเลยครับ
วิธีการ 5 ขั้นตอนเพื่อให้ได้ทุกสิ่งที่คุณต้องการในชีวิต ถูกแบ่งออกเป็น 5 ขั้น คือ
1. มีเป้าหมายที่ชัดเจน
2. ระบุปัญหาให้ชัด และไม่ยอมให้ปัญหาเหล่านั้นมาขวางทาง
3. วินิจฉัยปัญหา ให้รู้ว่าอะไรคือต้นเหตุของปัญหา
4. คิดและออกแแบบแผนที่จะจัดการกับปัญหา
5. สุดท้ายคือ ทุ่มเททุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้ได้ตามแผน
ซึ่งขั้นตอนทั้ง 5 รวมเป็น loop วงจรที่ให้ทำซ้ำต่อเนื่องกันแบบนี้
มาดูข้อแรกกัน.. มีเป้าหมายที่ชัดเจน
เรื่องแรกเค้าบอกว่าให้จัดลำดับความสำคัญ คุณสามารถมีแทบทุกสิ่งได้แต่คุณจะมีทุกสิ่งไม่ได้ (อันนี้ดี) คือจัดลำดับ อะไรที่สำคัญน้อยก็เอาออกไป หลายคนทำหลายอย่างเกินไป สุดท้ายไม่สำเร็จอะไรซักอย่าง
แล้วก็อย่าสับสนระหว่างเป้าหมายกับความอยาก เช่น เป้าหมายคือผอม แต่อยากกินชานมไข่มุก ก็นะ.. ต้องมุ่งมั่นในเป้าหมาย!!!!
มี Passion ก็เป็นเรื่องดี แต่แยกให้ออกว่าสิ่งที่ทำให้คุณอยากทำนั้นเป็นแรงบันดาลใจให้คุณไล่ล่าเป้าหมายได้ด้วยรึเปล่า
อย่าคิดว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้นั้น “เป็นไปไม่ได้!”
เพราะไม่มีอะไรจะหยุดคุณได้ ถ้าคุณมี “ความยืดหยุ่น” และ “ความรับผิดชอบ”
ยืดหยุ่นคือ ยอมรับความเป็นจริง ให้คนที่เก่งกว่าคุณสอนคุณ ส่วนความรับผิดชอบนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ
ข้อ 2 ระบุปัญหาและอย่าทนกับปัญหาเหล่านั้น
เค้าบอกให้มองปัญหาที่เจ็บปวดว่ามันคือสิ่งที่จะช่วยปรับปรุงศักยภาพ เพราะปัญหาคือโอกาส!!
ระบุปัญหาให้ชัด แล้วก็อย่าหนีปัญหา ปัญหาที่แตกต่างวิธีแก้ก็แตกต่าง บางปัญหาอาจจะไม่ใช่คุณที่สามารถแก้ได้ และสำคัญมากคือการแยกปัญหาใหญ่ ๆ ออกจากปัญหาเล็ก ๆ แล้วให้เวลามันอย่างมากพอในการจัดการ
และสุดท้ายคือ เมื่อระบุได้แล้ว ก็ต้องรีบแก้!! อย่ามัวแต่ทนอยู่กับปัญหา!!
ข้อ 3 วิเคราะห์ปัญหาเพื่อหาต้นเหตุที่แท้จริง
มุ่งมั่นไปที่ “ปัญหาคืออะไร” ไม่ใช่ “จะทำอย่างไรกับมัน” เราต้องมองถึงสาเหตุของปัญหา วินิจฉัยปัญหา หาหลักฐาน แล้วค่อยจัดการกับมัน
แยกแยะมูลเหตุใกล้ชิดออกจากต้นตอของปัญหา การกระทำที่นำพาเราไปสู่ปัญหาเป็นคนละเรื่องกับต้นตอของปัญหานะ
ข้อ 4 ออกแบบแผนงาน
เมื่อรู้ถึงปัญหาแล้ว ทีนี้เราก็มาจัดการแผนงานกัน
ข้อแรกเค้าบอกว่า ให้มองไปข้างหลังก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้า! ให้จินตนาการถึงสิ่งที่เคยผ่านมา แล้วคิดว่าเราจะต้องทำอะไรบ้างในอนาคตเพื่อไปถึงเป้าหมายนั้น
สิ่งที่สำคัญคือ ไม่ได้มีเพียงเส้นทางเดียวที่จะพาคุณไปถึงเป้าหมายนั้นได้!!
จากนั้นจึงค่อย ๆ วางแผน แล้วก็เขียนแผนของคุณให้ทุกคนได้รู้ เพื่อจะได้วัดความก้าวหน้าของตัวคุณได้ และจำไว้ว่า แผนงานที่ดีไม่จำเป็นต้องใช้เวลาออกแบบนาน !!
ข้อ 5 ผลักดันให้เสร็จสิ้น
เมื่อได้แผนแล้ว ก็ทำสิ!!
คนที่วางแผนแล้วไม่ได้ทำ ล้วนย่ำอยู่กับที่ ดังนั้นเริ่มทำตามแผน จัด to-do list แล้วทำไปตามลำดับ
จากนั้นสร้างตัวชี้วัดที่ชัดเจน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังทำตามแผนของคุณ
หนังสือ Principles เล่มนี้แปลเป็นไทยโดย คุณลิงค์ จอมทรัพย์ สิทธิพิทยา ซึ่งเป็นเพื่อนผมเองครับ 😀 ถือว่าแปลออกมาได้ดีมาก ๆ หากใครสนใจ สามารถกดซื้อได้จาก link นี้เลย… อยากบอกว่าเป็นหนึ่งในหนังสือที่คุณควรอ่าน และมีติดไว้ในบ้านซักเล่ม ที่สำคัญคือบางครั้งผมเองก็ “ส่งต่อ” เล่มนี้ด้วยการให้เป็นของขวัญกับเพื่อน ๆ ได้ด้วยครับ
